
ชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข”
- ประเภท : ชุมชนต้นแบบ
- ผู้วิจัย : ประเวศน์ มหารัตน์สกุล และคณะ
- ที่อยู่ : ชุมชนบ้านด่านพัฒนา หมู่ที่ 10 ตำบลเขาชนกัน อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์
- สังกัด : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์
- อีเมล : bri@mcu.ac.th
- แหล่งทุน : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 2563
ประวัติ
การพัฒนาประเทศที่ผ่านมามุ่งเน้นการสร้างความมั่งคั่ง (wealth creation) ตามแบบตะวันตกที่ต้องการให้เป็นสังคมอุตสาหกรรม แต่ผลข้างเคียงที่ตามมาคือทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมรุนแรงทำให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมไม่สามารถรองรับการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้กอปรสังคมไทยยังต้องเผชิญกับปัญหาการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของชาติที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเนื่องจากความมั่งคั่งของชาติกระจุก จึงเป็นปัญหาคุณภาพของคนไทยด้านสุขภาพและความรู้ โดยภาพรวมผลจากการพัฒนาประเทศไทยที่ประชาชนและชุมชนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่รายได้ไม่พอรายจ่าย ความเหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้ มีหนี้สินครัวเรือนสูง ผลจากปัญหาทางเศรษฐกิจยังส่งผลต่อปัญหาทางสังคมในด้านคุณภาพชีวิต เด็กและเยาวชนติดยาเสพติด รวมทั้งปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ปัญหาดังกล่าวกระทบต่อประชาชนโดยทั่วไปโดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ตามท้องถิ่นในภูมิภาค
ไม่เพียงแต่สภาพปัญหาดังกล่าวข้างต้นปัจจุบันและอนาคต หากยังพัฒนาตามแบบตะวันตกยิ่งจะเกิดปัญหาตามมามากมาย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านวิทยาการและเทคโนโลยีที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าการเรียนรู้ของประชาชนและชุมชนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ตามชนบท ห่างไกลจากส่วนกลางซึ่งประชาชนในส่วนกลางมีความพร้อมในการเรียนรู้มากกว่าคนในชนบท การพัฒนาตามแบบตะวันตกมีส่วนก่อให้เกิดผลกระทบอีกมุมหนึ่งคือการที่ชุมชนพัฒนาตามวิทยาการและเทคโนโลยีที่ก้าวรุดหน้านั้นอาจนำมาซึ่งความไม่ปกติสุขต่อความเป็นอยู่ ทั้งนี้เนื่องจากชุมชนแต่ละแห่งมีลักษณะเฉพาะของตนเอง มีวัฒนธรรมค่านิยมที่สืบสานกันมาหลายชั่วอายุคน สมาชิกชุมชนเคยดำรงชีวิตอย่างปกติสุขและมีความเข้มแข็งเฉพาะแบบในนิยามของตนเองที่สามารถกำหนดวิถีชีวิต มีวิถีประชาและทิศทางการพัฒนาตนเอง(self- determination) การพัฒนาตนเอง (self-development) จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการพัฒนาชุมชนฐานรากของประเทศ หากชุมชนมีความเข้มแข็งและประชาชนในชุมชนพึ่งตนเอง โดยใช้ทรัพยากรในพื้นที่ของตนเองเป็นหลัก ลดการพึ่งพาจากภายนอก โดยภาพรวมจึงส่งผลให้ประเทศมีความเข้มแข็งไปด้วย
ลักษณะการพัฒนาตนเองบนพื้นฐานค่านิยม ความเป็นธรรมของสังคม (social justice) การกำหนดอนาคตของชุมชนเอง ทำงานและเรียนรู้ร่วมกัน (working and learning together) การพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืน (sustainable community development) อาศัยความร่วมมือกันในการปฏิบัติและมีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยยึดหลักปรัชญาความพอเพียงทางเศรษฐกิจที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานไว้ เพื่อให้การพัฒนาที่พึ่งตนเองตามหลักปรัชญาดังกล่าว ในระดับประเทศรัฐบาลจึงน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านกำหนดเป็นนโยบายและนำไปปฏิบัติให้บังเกิดผลสำเร็จในการพัฒนาแบบพึ่งพาตนเองบนพื้นฐานทรัพยากรของชุมชน และกำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้เป็นแนวทางหนึ่งที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ
จังหวัดนครสวรรค์ได้สนองตอบนโยบายการกระจายอำนาจรัฐสู่ชุมชนท้องถิ่นเพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้มีความสามารถพัฒนาตนเองทั้งในด้านเศรษฐกิจสังคมและการจัดสรรทรัพยากรอย่างเป็นธรรมที่เรียกว่าหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้หมู่บ้านพัฒนาตนเองตามสภาพของพื้นที่เพื่อให้พึ่งพิงตนเองมีเป้าหมายคือขจัดความยากจน แก้ไขและป้องกันปัญหาสังคมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งการพัฒนาชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนใหญ่มีกระบวนการที่คล้ายคลึงกันเช่นการอาศัยความร่วมมือของบ้าน วัด โรงเรียน (บวร) การตั้งคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในแต่ละด้าน ขบวนการกลุ่มในการพัฒนา การวางแผนพัฒนาชุมชนตามเกณฑ์ของกรมพัฒนาชุมชน ประชาชนในชุมชนปฏิบัติตามแผนและการปรับปรุงงานอาชีพของตนอย่างต่อเนื่อง และการร่วมรับผลประโยชน์ ในแต่ปีจังหวัดจะมีการประเมินผลด้วยวิธีการประกวดหมู่บ้านพัฒนาแบบเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” เพื่อสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้ชุมชนหมู่บ้านในจังหวัดนครสวรรค์ได้พึ่งตนเองในการพัฒนาชุมชนหมู่บ้านทางเศรษฐกิจที่พึ่งตนเองและทางสังคมให้อยู่เย็นเป็นสุขโดยมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ ไม่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ในแต่ละปีจังหวัดจะให้แต่ละอำเภอคัดสรรหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” และกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่น เสนอคณะกรรมการคัดสรรหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข”และกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่น ระดับจังหวัด เพื่อประเมินว่าหมู่บ้านใดพัฒนาชุมชนได้ดีเด่น โดยประเมินจากกิจกรรมการพัฒนาเช่น กิจกรรมที่เป็นสร้างเสริมอาชีพที่ลดค่าใช้จ่ายหรือเพิ่มรายได้ กิจกรรมกลุ่มองค์กรแกนหลักที่เป็นการส่งเสริมการออม การทำบัญชีครัวเรือน การทำงานตามบทบาทหน้าที่และผลงานของผู้นำชุมชน เป็นต้น
หมู่บ้านด่านพัฒนา หมู่ที่ 10 ตำบลเขาชนกัน อำเภอแม่วงก์ ได้รับรางวัลชนะเลิศหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” ในปี พ.ศ. 2561 โดยใช้เวลาในการพัฒนาเพียง 2 ปี คือเริ่มพัฒนาตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 และได้รับรางวัลชนะเลิศหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” ระดับจังหวัด ในปี 2561 นอกจากนี้หมู่บ้านนี้ยังมีการยกระดับการพัฒนาเพื่อส่งเข้าประกวดในระดับภาคในโครงการบ้านสวยเมืองสุข และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประจำปี พ.ศ. 2561 ผู้นำและชาวบ้านยังมีความมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ความสำเร็จในการพัฒนาของหมู่บ้านนี้ น่าจะเป็นต้นแบบในการพัฒนาแก่หมู่บ้านอื่นได้ และควรที่จะมีการศึกษาถึงวิธีคิดและการปฏิบัติของผู้นำและประชาชนในชุมชน ว่ามีรูปแบบและกระบวนการพัฒนาเป็นอย่างไร ซึ่งรูปแบบและกระบวนการพัฒนาที่ได้จากการศึกษานี้จะได้นำไปใช้เป็นแบบอย่างให้แก่หมู่บ้าน องค์กร สถาบันอื่นได้ศึกษาเรียนรู้และนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาหมู่บ้านของตนเองได้ควรอย่างไร อันจะเป็นการขยายผลการพัฒนาชุมชนฐานรากของประเทศที่เข้มแข็งอีกทางหนึ่ง
งานวิจัยเรื่อง “รูปแบบการพัฒนาชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” ในจังหวัดนครสวรรค์” มีวัตถุประสงค์ คือ
- ศึกษารูปแบบการพัฒนาชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” ในจังหวัดนครสวรรค์
- ศึกษากระบวนการพัฒนาชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” ในจังหวัดนครสวรรค์
- สร้างเครือข่ายการพัฒนาชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” ในจังหวัดนครสวรรค์
ผลการวิจัย พบว่า
- รูปแบบการพัฒนาชุมชนมี 2 รูปแบบ โดยใช้รูปแบบ “ผู้นำ” สำคัญมาก่อน “บวร” (บ้าน วัด ราชการ)ในการพัฒนาชุมขน
- กระบวนการพัฒนามี 6 ขั้นตอนได้แก่ การสร้างความเข้าใจแนวคิดและคุณค่าการพัฒนา การสร้างความเข้าใจสภาพชุมชน วิเคราะห์ศักยภาพชุมชนร่วมกัน การตั้งกลุ่มพัฒนาแต่ละด้าน การพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และการสร้างเครือข่ายการพัฒนา โดยคนในชุมชนมีส่วนร่วมทั้ง 6 ขั้นตอน และการรับผลประโยชน์เป็นไปตามกำลังความสามารถของแต่ละคน
- มีการสร้างเครือข่ายการพัฒนาชุมชนแบบเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” โดยทั้งสี่หมู่บ้านได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาชุมชนที่มีบ้านด่านพัฒนาเป็นต้นแบบการพัฒนาให้อีกสามหมู่บ้าน และยังพบว่าความสำเร็จในการพัฒนาชุมชนก่อให้เกิดผลลัพธ์ด้านสังคม ทำให้ประชาชนในชุมชนมีสุขภาพทั้งกายและจิตที่ดี อยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออาทรเกื้อกูลกัน วิเคราะห์ปัญหาและการวางแผนพัฒนาร่วมกัน สังคมชุมชนมีความสงบปกติสุข ครอบครัวมีความอบอุ่น เกิดความรักในถิ่นฐาน เกิดความภูมิใจที่ได้รับรางวัลและเป็นต้นแบบการพัฒนาให้หมู่บ้านอื่น ด้านเศรษฐกิจ ทุกคนในชุมชนมีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพและมีเงินออม ด้านสิ่งแวดล้อม สภาพแวดล้อมและระบบนิเวศของชุมชนมีความสมดุล มีข้อเสนอแนะที่สำคัญควรให้ชุมชนที่ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาตนเองแบบเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข”ขยายผลการพัฒนาไปยังชุมชนข้างเคียงในลักษณะเครือข่าย
องค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัย
การวิจัยเพื่อศึกษารูปแบบพัฒนาชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นขั้นก้าวหน้าต้องมีการสร้างเครือข่ายการพัฒนาไปยังชุมชนอื่น ผู้ที่มีบทบาทสำคัญเป็นอันดับแรกในความสำเร็จของการพัฒนาคือผู้ใหญ่บ้าน ส่วนบ้าน วัดและราชการ (บวร) มีความสำคัญเป็นลำดับถัดมา โดยมีกระบวนการพัฒนาเริ่มจากผู้นำให้ความรู้ในการพัฒนาชุมชนแก่ประชาชน การตั้งคณะกรรมหมู่บ้านที่รับผิดชอบการพัฒนาแต่ละด้าน การร่วมกันประเมินศักยภาพของชุมชนเพื่อนำข้อมูลไปวางแผนก่อนที่จะนำแผนไปสู่การปฏิบัติประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการประกอบอาชีพให้รับประโยชน์ตามกำลังความสามารถของตนเอง ซึ่งวิธีนี้จะทำให้การพัฒนามีความยั่งยืน ความสำเร็จในการพัฒนาชุมชนจึงขยายผลการพัฒนาไปยังชุมชนอื่นศึกษาเลียนแบบฉบับผู้นำและกระบวนการพัฒนา เท่ากับเป็นการขยายฐานเศรษฐกิจ ตลาด และสังคมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในการรองรับแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ของชุมชน และสร้างอำนาจต่อรองในทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ของชุมชน