ศูนย์วิจัยต้นแบบของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ประวัติ

ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ได้กำหนดวิสัยทัศน์ว่า “ประเทศไทยใช้การวิจัยและนวัตกรรมเป็นกำลังอำนาจแห่งชาติ เพื่อก้าวไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วภายใน 20 ปี ด้วยความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” โดยประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ดังนี้

  • ยุทธศาสตร์ที่ 1 การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ
  • ยุทธศาสตร์ที่ 2 การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม
  • ยุทธศาสตร์ที่ 3 การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการสร้างองค์ความรู้พื้นฐานของประเทศ
  • ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากร และระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ

ปัจจุบันงานวิจัยส่วนใหญ่ทำโดยหน่วยงานภาครัฐ ส่วนหนึ่งก็คือ มหาวิทยาลัย ส่วนหนึ่งคือสถาบันวิจัย กรม กอง ในกระทรวงต่าง ๆ และส่วนหนึ่ง คือ สถาบันวิจัยและพัฒนาเฉพาะทางที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นในระยะหลัง ๆ สำหรับหน่วยวิจัยที่เป็นมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษานั้น ตามหลักการเดิมมีภารกิจหลักอยู่ที่การผลิตบัณฑิต ต่อมามีวิวัฒนาการให้มหาวิทยาลัยเป็นแหล่งสร้างความรู้และเผยแพร่ความรู้เพื่อให้เกิดประโยชน์ บุคลากรในสายอาจารย์ที่มีความรู้และมีศักยภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การวิจัยของมหาวิทยาลัย และยังได้ใช้กระบวนการวิจัยเป็นกลยุทธ์ในการพัฒนาบัณฑิตในระดับปริญญาโทและเอก รวมถึงการสร้างนักวิจัยด้วย หน่วยวิจัยในลักษณะของมหาวิทยาลัยนั้นยังมีพัฒนาการที่มุ่งเน้นการวิจัยแบบแยกส่วนมีการจัดตั้งเป็นสถาบันวิจัยเฉพาะด้านหรือศูนย์วิจัยเฉพาะด้านขึ้น

สถาบันวิจัยเฉพาะด้านเกิดขึ้นตามแนวโน้มความต้องการของประเทศบ้าง เกิดขึ้นจากการดูตัวอย่างในต่างประเทศบ้าง ผนวกกับการประเมินศักยภาพของบุคลากรในมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยเหล่านี้ มีตำแหน่งนักวิจัยเต็มเวลาด้วยนอกเหนือจากการดึงเอาอาจารย์ในคณะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมงานกับสถาบันปัญหาหรืออุปสรรคของหน่วยงานวิจัยที่เป็นมหาวิทยาลัยก็คืออาจารย์ ซึ่งเป็นหลักของการวิจัยยังถูกเน้นให้รับผิดชอบหลักในด้านการเรียนการสอนและสังกัดอยู่กับภาควิชาและคณะ มหาวิทยาลัย ถึงแม้จะมีนโยบายหรือแนวคิดจะพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยวิจัย และผลิตผลงานวิจัยออกมาจำนวนมาก ก็ยังคงมีการกำหนดภาระงานขั้นต่ำของอาจารย์ที่กำหนดให้ทำหน้าที่สอนเป็นหลัก บางแห่งยังคงกำหนดให้สอนไม่ต่ำกว่า18 ภาระงาน (หรือครึ่งหนึ่งของเวลา) ในขณะที่กำหนดภาระงานวิจัยขั้นต่ำ เป็นเพียงส่วนเสริม ระบุไว้เพียงประมาณ 4– 5 ภาระงานเท่านั้น งานวิจัยยังคงหนีไม่พ้นรูปแบบเดิมในยุคกำเนิดมหาวิทยาลัยที่ว่า งานวิจัยเป็นความสนใจเฉพาะบุคคลและไม่ว่าจะสนใจมากหรือมีศักยภาพมากเท่าใดก็ตาม ก็ยังคงถูกกำหนดให้สอนเท่า ๆ กับอาจารย์ทั่วไปที่อาจไม่สนใจวิจัย ปัญหายังเกิดขึ้นอีกกับสถานภาพของนักวิจัยที่ถูกตีค่าต่ำกว่าการเป็นอาจารย์ ทั้งค่าตอบแทน แรงจูงใจ รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ทำให้ค่านิยมที่จะเป็นนักวิจัยน้อยมาก กลุ่มนักวิจัยที่มีฝีมือจึงผันตัวเองเข้าสู่สายอาจารย์เสียมาก การบริหารจัดการสถาบันวิจัยและคณะ/ภาควิชา ในมหาวิทยาลัย ก็ดำเนินการแบบแยกส่วนขาดการเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน ไม่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันสถาบันวิจัยส่วนมากก็ถูกกำหนดให้บริหารจัดการให้สามารถดูแลตัวสถาบันเองได้ในระดับหนึ่ง ทำให้กลายสภาพไปรับจ้างเป็นที่ปรึกษา ทำงานบริการวิชาการ มากกว่าทำงานวิจัย ดังปรากฏในหลายสถาบันสถาบันวิจัยจึงมักมีผลงานตามศักยภาพและความสามารถของผู้บริหาร

สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นหน่วยงานหลักในการให้ความสนับสนุน ส่งเสริม ติดต่อประสานงานกับคณาจารย์ และนักวิจัยของคณะ วิทยาเขตวิทยาลัยสงฆ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยซึ่งอยู่ในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคต่าง ๆเพื่อให้การติดต่อประสานงาน กับคณาจารย์ นักวิจัยมีความรวดเร็ว คล่องแคล่ว เป็นไปอย่างมีระบบมีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผลในการส่งเสริม การพัฒนางานวิจัย และนักวิจัย ตลอดจนเจ้าหน้าที่ ในพันธกิจด้านการวิจัยและพัฒนาคุณภาพงานวิชาการด้านพระพุทธศาสนา ประยุกต์กับศาสตร์ต่าง ๆซึ่งมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในปัจจุบัน มีส่วนงาน วิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ครอบคลุมกระจายอยู่ตามภูมิภาคทั่วประเทศ ดังนั้น สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์จึงเห็นควรให้มีการบริหารจัดการการส่งเสริมและพัฒนานักวิจัยในส่วนภูมิภาค โดยการจัดตั้งศูนย์วิจัยพุทธศาสตร์ส่วนภูมิภาค ในรูปแบบของ ศูนย์วิจัยพุทธศาสตร์และพัฒนา ของวิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ นั้น ๆ และให้อยู่ในกำกับดูแลของสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ เพื่อให้การดำเนินงานด้านการวิจัยในแต่ละแห่งมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ และเชื่อมโยงกับเครือข่ายต่างๆ อีกทั้งยังสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริการวิชาการงานวิจัยทางพุทธศาสนาสู่สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางการดำเนินการของหน่วยวิจัย/สถาบันวิจัยประจำส่วนงาน

  • พัฒนาโครงการวิจัยของส่วนงาน (ที่มาจากทุกสาขาวิชาที่เปิดสอนในคณะ วิทยาเขตวิทยาลัยสงฆ์) เพื่อขอรับทุนอุดหนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยและแหล่งทุนการวิจัยในระดับชาติ
  • พัฒนานักวิจัยในทุกระดับ
  • พัฒนากิจกรรมส่งเสริมการวิจัย เช่น การจัดประชุมวิชาการ การส่งเสริมการวิจัยชุมชนการตีพิมพ์ในวารสาร
  • การจัดหาทุนการวิจัยของส่วนงาน
  • การกำกับ ติดตามและประเมินผลการวิจัย
  • พัฒนาชุดความรู้และนวัตกรรมของส่วนงาน
  • จัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศการวิจัยของส่วนงาน
  • กรรมการดำรงวาระไม่เกิน 3 ปี

งานวิจัยเรื่อง “ยุทธศาสตร์การสร้างศูนย์วิจัยต้นแบบของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย” มีวัตถุประสงค์

  1. เพื่อพัฒนายุทธศาสตร์การจัดตั้งศูนย์วิจัยของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  2. เพื่อส่งเสริมศูนย์วิจัยต้นแบบของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  3. เพื่อสนับสนุนศูนย์วิจัยต้นแบบในการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามนโยบายมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

 

ผลการวิจัย พบว่า

  1. ด้านแนวทางพัฒนายุทธศาสตร์การจัดตั้งศูนย์วิจัยของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พบว่า ยุทธศาสตร์ที่สำคัญคือกำหนดวัตถุประสงค์หลักของการจัดตั้งศูนย์วิจัย เช่น การสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมที่มีศักยภาพสูง การเสริมสร้างทักษะและความรู้ให้แก่นักวิจัย การสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาทางสังคมหรือการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับภาครัฐและเอกชน เน้นการสร้างความร่วมมือวางแผนการจัดสรรงบประมาณในการดำเนินงานศูนย์วิจัยโดยการพิจารณาค่าใช้จ่ายทั้งในด้านอุปกรณ์ ค่าจ้างงานวิจัย การพัฒนาองค์ความรู้ และการสนับสนุนโครงการพิเศษกำหนดวิธีการวัดและประเมินผลสำหรับศูนย์วิจัยเพื่อให้สามารถปรับปรุงและพัฒนายุทธศาสตร์สร้างระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพเพื่อจัดการข้อมูลและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับศูนย์วิจัย สร้างความโปร่งใสในการดำเนินงานของศูนย์วิจัย รวมถึงการเผยแพร่ผลงานวิจัยและนวัตกรรม
  2. ด้านการส่งเสริมศูนย์วิจัยต้นแบบของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยพบว่า การส่งเสริมศูนย์วิจัยต้นแบบของมหาวิทยาลัยมักมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนและส่งเสริมงานวิจัยที่มีคุณค่าและสร้างผลการวิจัยที่มีประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสร้างนวัตกรรมที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของสังคมและสนับสนุนการพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนการส่งเสริมศูนย์วิจัยต้นแบบของมหาวิทยาลัยประกอบด้วยการให้ทุนการวิจัยสนับสนุนอาจารย์และนักวิจัยพัฒนาผลงานวิจัยให้กับศูนย์วิจัยและสร้างพื้นที่ที่สนับสนุนการทำงานวิจัยอย่างเต็มที่การส่งเสริมศูนย์วิจัยต้นแบบทั้งหมดสามารถมีวัตถุประสงค์เฉพาะพื้นที่ตามวิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ ที่ต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่
  3. ด้านการสนับสนุนศูนย์วิจัยต้นแบบในการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามนโยบายมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยพบว่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมีนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาทางวิชาการ โดยให้ความสำคัญกับการสร้างศูนย์วิจัยต้นแบบที่สามารถทำงานอย่างยั่งยืนและสร้างผลผลิตที่มีคุณค่าต่อสังคมและประเทศชาติ การสนับสนุนทุนมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมุ่งเน้นในการจัดหาทุนและทรัพยากรที่เพียงพอให้กับศูนย์วิจัยต้นแบบเพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต่อเนื่อง การสร้างความร่วมมือทางวิชาการและอุตสาหกรรมเป็นส่วนสำคัญของนโยบายศูนย์วิจัยต้นแบบมีการทำงานร่วมกับภาคเอกชนและรัฐบาลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประโยชน์ทั้งสำหรับวิชาการและสังคม การสนับสนุนนักวิจัยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะและความรู้ของนักวิจัย และสนับสนุนให้นักวิจัยมีสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์

องค์ความรู้จากงานวิจัย

ยุทธศาสตร์การสร้างศูนย์วิจัยต้นแบบของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมีหลายด้านที่สำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของศูนย์ ดังนี้ วัตถุประสงค์และวิสัยทัศน์ การกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนช่วยให้ทุกคนในศูนย์มีทิศทางการทำงานที่เข้าใจและไปในทิศทางเดียวกันกำหนดแผนกลยุทธ์การวิจัยและพัฒนาการกำหนดแผนกลยุทธ์ที่เชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ของศูนย์โดยให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรมและความร ่วมมือกับภาคเอกชนและภาครัฐรวมทั้งภาคีเครือข่าย การพัฒนาความร่วมมือกับภาคธุรกิจ รัฐบาล และองค์กรอื่น ๆ เพื่อให้ศูนย์ได้รับการสนับสนุนและทรัพยากรที่จำเป็น การจัดทำแผนการสื่อสารการสร้างแผนที่เป็นประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มความรู้และความตระหนักรู้ในท้องถิ่นและนอกท้องถิ่นการพัฒนาทรัพยากรบุคคล การสร้างแผนการบริหารทรัพยากรบุคคลที่สามารถดูแลและส่งเสริมนักวิจัยและบุคลากรทางวิจัยการวัดและประเมินผล ติดตามและวัดผลการดำเนินงาน เพื่อทราบว่าศูนย์วิจัยต้นแบบได้ทำงานตามวัตถุประสงค์และแผนกลยุทธ์หรือไม่ และใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการปรับปรุง การจัดทำงบประมาณ การวางแผนงบประมาณที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนกิจกรรมวิจัยและพัฒนา การเผยแพร่ ผลงาน การสร้างแผนการเผยแพร่ผลงานวิจัยเพื่อส่งเสริมความรู้และเสริมสร้างชื่อเสียงในวงกว้าง การผนวกรวมและดำเนินการในทุกด้านเหล่านี้จะช่วยให้ศูนย์วิจัยต้นแบบของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมีความสำเร็จในการสร้างนวัตกรรมและส่งเสริมการพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยอาศัยหลักการแนวคิดตามหลักพุทธธรรมไปบูรณาการเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

Scroll to Top
ห้องวิจัยพุทธศาสตร์อัจฉริยะ BRL: Buddhist Research LAB
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.