
การพัฒนาศิลปหัตถกรรมสร้างสรรค์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากตามแนวพุทธในพื้นที่ตำบลหนองขนาก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- ผู้วิจัย : รศ. ดร.เเม่ชีกฤษณา รักษาโฉม ผศ. ดร.อรชร ไกรจักร์ ดร.กรรณิการ์ ขาวเงิน พระมหาวรัญธรณ์ ศรีขุ้ย พระมหาดวงเด่น ตุนิน, ผศ. ดร.
- สังกัด : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- อีเมล : kritsana.rak@mcu.ac.th
- แหล่งทุน : สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) 2568
- ที่มา : แม่ชีกฤษณา รักษาโฉม และคณะ. (2568). การพัฒนาศิลปหัตถกรรมสร้างสรรค์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อยกระดับ เศรษฐกิจฐานรากตามแนวพุทธในพื้นที่ตำบลหนองขนาก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (รายงานการวิจัย). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
องค์ความรู้
จากภาพองค์ความรู้จากการวิจัยข้างต้น สามารถอธิบายได้ว่า กระบวนการพัฒนาศิลปหัตถกรรมสร้างสรรค์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากตามแนวพุทธ มีขั้นตอนในการดำเนินงานตามลำดับดังนี้
1. ต้นน้ำ การศึกษาสภาพปัญหาและบริบทของชุมชน จุดเริ่มต้นของการพัฒนาศิลปหัตถกรรมจากภูมิปัญญาท้องถิ่น คือ การเข้าใจบริบทของชุมชนอย่างถ่องแท้ เนื่องจากแต่ละชุมชนล้วนมีภูมิหลัง ปัญหา และความต้องการที่แตกต่างกัน การพัฒนาโดยไม่พิจารณาสภาพปัญหาอย่างรอบด้าน อาจทำให้ขาดแรงสนับสนุนจากชุมชน และไม่ก่อให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว ฉะนั้นการลงพื้นที่เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและรับฟังเสียงของชุมชนจึงถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการออกแบบการพัฒนา
2. กลางน้ำ เมื่อมีความเข้าใจในบริบทของชุมชนแล้ว ต่อมาดำเนินกิจกรรมการพัฒนาศิลปหัตถกรรมสร้างสรรค์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากตามแนวพุทธ โดยออกแบบกิจกรรมตาม WISE Model กล่าวคือ องค์ประกอบที่ 1 ด้านความรู้ (W – Wisdom) และองค์ประกอบที่ 2ด้านการสร้างสรรค์ (I – Innovation) นำมาสู่การกำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การพัฒนางานศิลป์อย่างสร้างสรรค์ องค์ประกอบที่ 3 ด้านการขายที่ตระหนักถึงสังคม (S -Socially Conscious Selling) นำมาสู่การกำหนดกิจกรรมค้าขายแฟร์ดูแลชุมชนและองค์ประกอบที่ 4ด้านจริยธรรม (E – Ethics) นำมาสู่การกำหนดกิจกรรมการปลูกฝังจริยธรรมในการผลิตและจำหน่าย
โดยในเเต่ละกิจกรรมมีการดำเนินงานดังนี้ (1) กิจกรรมการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การพัฒนางานศิลป์อย่างสร้างสรรค์ หมายถึง การสนับสนุนให้ชาวบ้านได้เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น อาทิ การจักสาน การเย็บผ้าและตัดผ้า การประดิษฐ์และการตกแต่ง และการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นผสานกับความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความร่วมสมัยน่าสนใจ สามารถแข่งขันในตลาดได้จริง (2) กิจกรรมค้าขายแฟร์ดูแลชุมชน หมายถึง การส่งเสริมทักษะด้านการตลาดผ่านการฝึกอบรมแก่ชาวบ้าน เช่น แนวคิด 4 P (Product, Price, Place, Promotion) หลักการตั้งราคาขายแบบพื้นฐาน หลักการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย การไลฟ์สด การส่งเสริมให้ชาวบ้านสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายได้แก่ การขายหน้าร้าน การขายผ่านตัวแทน และการขายออนไลน์ พร้อมทั้งส่งเสริมให้ชาวบ้านมีจริยธรรมในการจำหน่ายเพื่อความยั่งยืนของธุรกิจและความไว้วางใจจากผู้บริโภค (3) กิจกรรมปลูกฝังจริยธรรมในการผลิตและจำหน่าย หมายถึง การปลูกฝังแนวคิดด้านจริยธรรมในการสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมแก่ชาวบ้านเพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการปลูกฝังแนวคิดเรื่องการค้าขายอย่างเป็นธรรมเพื่อให้ชาวบ้านสามารถประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน โดยกิจกรรมทั้งหมดเน้นการเรียนรู้ผ่านระสบการณ์จริง (Learning by Doing)
3. ปลายน้ำ เมื่อชุมชนได้ผ่านกระบวนการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ชาวบ้านจะเกิดความรู้ความเข้าใจ และความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาท้องถิ่นของตนเอง สามารถนำองค์ความรู้นั้นมาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมที่มีความโดดเด่นและร่วมสมัย มีอัตลักษณ์เฉพาะ สามารถแข่งขันในตลาดได้จริง ส่งผลให้ชาวบ้านสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ และดำเนินชีวิตอย่างมีจริยธรรม