องค์ความรู้จากการวิจัยพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนสู่ปัญญาและคุณธรรม

องค์ความรู้

องค์ความรู้จากการวิจัยพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนสู่ปัญญาและคุณธรรม

องค์ความรู้จากการวิจัยพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน การพัฒนาศักยภาพพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนสู่การพัฒนาปัญญาและคุณธรรม นั้น ถึงแม้ว่าบริบทในเชิงพื้นที่แตกต่างกันบ้าง ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นเรื่องของการเดินทางไปสอนมีใกล้ไกลต่างกัน แต่สิ่งที่เป็นหนึ่งเดียวกัน คือ การสอนแบบบูรณาการระหว่างหลักสูตรและกิจกรรมทางสื่อโชเซียล ฉะนั้นพระสอนศีลธรรมจึงได้อาศัยช่องทางสื่อโซเซียลมาใช้ในการทำแผนการสอน สื่อการเรียนรู้ ผสมผสานกับสื่อที่ได้รับจากโรงการพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนประกอบกัน ด้วยความรู้ของพระสอนจะต้องมีการเติมเต็มอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีแหล่งเรียนรู้และเร็ว คือสื่อคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ผ่านแอพพิเคชั่นไลน์ เฟสบุ๊คในเชิงสร้างสรรค์และก่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด รับรู้และพึงระวังในเรื่องของภัยทางสื่อโซเซียล

การพัฒนาศักยภาพพระสอนศีลธรรมแม้จะมีความรู้ ความสามารถ แต่สิ่งที่ขาดมิได้ คือ ทัศนคติ คือ ความคิด ความรู้สึก และวิสัยทัศน์ ที่จะช่วยขัดเกลาและพัฒนาตนเองได้อย่างดีและเหมาะสมที่สุด เพราะสิ่งที่เด็กคาดหวังจากพระสอนคือ ความเป็นกัลยาณมิตร เห็นข้อธรรมจากครูผู้สอน และกิจกรรมที่เด็กมีส่วนร่วมก็เกิดขึ้นจากพระสอนศีลธรรมจะให้เด็กมีส่วนร่วมในรูปแบบใดที่ตอบสนองความต้องการของเด็กได้ แนวคิดหรือทัศนคติที่ดีจะเป็นการส่งเสริมบรรยายกาศการเรียนรู้ที่ดี เด็กได้รับธรรมะที่ถูกต้องและเข้าใจง่าย เด็กก็มีความสนใจใฝ่เรียนรู้และไม่ได้หวังผลเพียงแค่ผ่านการเรียน เป็นการเรียนรู้เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

การถอดบทเรียนก็ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญ แม้ว่าบริบทในโรงเรียนหรือสถานที่เข้าไปสอนนั้นจะมีความแตกต่างกันบ้าง การถอดบทเรียนในแต่ละพื้นที่ก็มีส่วนสำคัญในการพัฒนาศักยภาพทั้งผู้สอนและผู้เรียนได้ สิ่งที่จะต้องดำเนินการเพื่อสร้างกิจกรรมด้วยการถอดบทเรียน คือ สร้างความเข้าใจให้เด็กมีส่วนร่วมในการคิด วางแผนและปฏิบัติทั้งในและนอกห้องเรียน เพราะผลการพัฒนาศักยภาพ ๓ ด้าน คือ เพิ่มพูนทักษะความรู้ ทัศนคติที่ดี และพฤติกรรมที่เหมาะสมของพระสอนศีลธรรม การมีส่วนร่วมของเครือข่ายในการร่วมรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ไข พระสอนมีคุณภาพ นักเรียนมีปัญญาและคุณธรรม

ประการสุดท้ายคือ การนำหัวข้อธรรมะมาประยุกต์ใช้ในการสอน คือ หลักอริยสัจ ๔ และหลักอิทธิบาท ๔ ซึ่งหลักธรรมทั้งสองนั้นมีความยาก-ง่าย ดังนั้นพระสอนจะต้องสร้างความเข้าใจในหลักธรรมและแนวทางที่จะถอดเอาวิธีการสอน คือ การหาสาเหตุแห่งการสอนที่ได้ผล และที่ไม่ได้ผลมาเขียนเป็นแผนการสอนหรือแผนการเรียนรู้ เมื่อพบสาเหตุที่ส่งผลให้การสอนไม่ประสบผลสำเร็จก็ให้แนวทางหรือวิธีการที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหา

 

Scroll to Top
ห้องวิจัยพุทธศาสตร์อัจฉริยะ BRL: Buddhist Research LAB
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.