การจัดการภูมินิเวศพื้นที่ชุมชนบริเวณมรดกโลกห้วยขาแข้ง
- ประเภท : ชุมชนต้นแบบ
- ผู้วิจัย : ดร.ประคอง มาโต
- ที่อยู่ : บ้านคลองชะนีบน ตำบลป่าอ้อ จังหวัดอุทัยธานี
- สังกัด : วิทยาลัยสงฆ์อุทัยธานี
- อีเมล : Prakong.mat@mcu.ac.th
- แหล่งทุน : สกสว 2567
ประวัติ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) ศึกษาสภาพภูมินิเวศพื้นที่ชุมชนบริเวณมรดกโลกห้วยขาแข้ง ๒) ศึกษาการจัดการผังภูมินิเวศพื้นที่ชุมชนบริเวณมรดกโลกห้วยขาแข้ง และ ๓) เสนอรูปแบบการจัดการผังภูมินิเวศพื้นที่ชุมชนบริเวณมรดกโลกห้วยขาแข้งที่เหมาะสม ใช้การวิจัยแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ แบ่งตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย ๓ ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ ๑ มุ่งเน้นใช้การวิจัยเชิงเอกสาร เชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณ ขั้นตอนที่ ๒ มุ่งเน้นใช้รูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ ขั้นตอนที่ ๓ ใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสานวิธี ในการศึกษาเป็นข้อมูล กับประชากรกลุ่มตัวอย่าง ใน ๒ พื้นที่ ได้แก่ บ้านคลองชะนีบน หมู่ ๓ ตำบลป่าอ้อ และ บ้านทรัพย์สมบูรณ์ หมู่ ๑๒ ตำบลระบำ อำเภอลานสัก รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิที่มีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์พื้นที่ป่าและชุมชน มาใช้ในการดำเนินการศึกษาวิจัย
ผลการวิจัย
๑) ภูมินิเวศของพื้นที่มรดกโลกห้วยขาแข้งมีความหลากหลายและซับซ้อน โดยชุมชนมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติผ่านการใช้ทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบและมีการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน การจัดการทรัพยากรน้ำ ป่าไม้ และพื้นที่เกษตรกรรมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชุมชนสามารถอยู่ร่วมกับระบบนิเวศในพื้นที่ได้อย่างสมดุลและยั่งยืน
๒) การจัดการผังภูมินิเวศในพื้นที่ชุมชนห้วยขาแข้งเกิดเป็นผลสำเร็จก็มาจากการมีส่วนร่วมของหลายฝ่าย โดยเน้นการวางแผนอย่างเป็นระบบและการมีส่วนร่วมของชุมชน การจัดการในลักษณะนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลให้เกิดการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์ ชุมชนมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจและดำเนินการร่วมกับหน่วยงานรัฐและองค์กรเอกชน ผลการวิจัยนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและภูมินิเวศที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน
๓) รูปแบบการจัดผังภูมินิเวศที่มีความยั่งยืน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในกระบวนการวางแผนและปฏิบัติ รูปแบบนี้ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติที่เสื่อมโทรม การอนุรักษ์พื้นที่สำคัญต่อระบบนิเวศ และการส่งเสริมกิจกรรมที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น รูปแบบการจัดการนี้สอดคล้องกับงานวิจัยที่เกี่ยวข้องและช่วยสร้างแนวทางที่ยั่งยืนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่มรดกโลกห้วยขาแข้ง นอกจากนี้ การดำเนินการดังกล่าวยังส่งผลให้เกิดความยั่งยืนทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของชุมชน