การอนุรักษ์และสืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน กรณีศึกษาประเพณีฟังธรรมขอฝน จังหวัดเชียงราย

ประวัติ

1. ประเพณีฟังธรรมขอฝนในฐานะที่เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
1) ชุมชนห้วยไคร้ นับถือศาสนาพุทธ มีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับพระพุทธศาสนาอย่างยาวนาน คนในชุมชนพึ่งพาป่าต้นน้ำขุนห้วยไคร้ในการดำรงชีวิต ในอดีตคนในชุมชนมีความสัมพันธ์กับทรัพยากรดิน น้ำ ป่า แบบไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ชุมชนต้องพึ่งพาอาศัยป่า ด้วยเป็นแหล่งปัจจัยพื้นฐานสี่ประการที่สำคัญในการดำรงชีวิต ป่าเป็นแหล่งอาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย ป่าเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารในการบริโภค อุปโภค และการเกษตร ป่ายังเป็นแหล่งของผลผลิตที่สามารถสร้างรายได้เสริม เช่น หน่อไม้ เห็ด น้ำผึ้ง เป็นต้น สร้างมูลค่าแตกต่างกันตามฤดูกาล และป่าต้นน้ำยังเป็นแหล่งที่มาของความเชื่อและประเพณีในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ชุมชนห้วยไคร้มีวัฒนธรรมและวิถีปฏิบัติในการจัดการดูแลป่า เช่น ความเชื่อเรื่องผีที่ดูแลป่า รักษาต้นน้ำ ป่าชุมชน กำหนดแบบแผนการใช้ทรัพยากรจากป่า กุศโลบายในการรักษาความสมบูรณ์ของป่าผ่านพิธีกรรมตามลักษณะภูมินิเวศ และวัฒนธรรมมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ชุมชนสามารถดำรงอยู่ได้ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นที่มาของปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต
2) ประเพณีฟังธรรมขอฝน ชุมชนห้วยไคร้ ตำบลเวียง อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นประเพณีท้องถิ่นที่ชุมชนห้วยไคร้ได้มีการจัดกิจกรรมสืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ชุมชนได้ร่วมกันจัดขึ้นทุกปี ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 9 เหนือ โดยพระสงฆ์จะสวดมนต์เพื่อขอฝนให้ตกลงมาก่อนถึงฤดูกาลทำนา ซึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของประเพณีทางพระพุทธศาสนาในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการประกอบพิธีกรรม จะมีการสวดพระปริตร คาถาขอฝนและคาถามหาเมฆ ตามด้วยการแสดงพระธรรมเทศนาเรื่อง “พญาปลาช่อน” หรือ “มัจฉาพญาปลาช่อน” พระธรรมเทศนาดังกล่าวเป็นคัมภีร์ประเภทชาดก เนื้อเรื่องผูกขึ้นโดยมีพญาปลาช่อนเป็นตัวละครเอกบำเพ็ญสังคหวัตถุธรรมจนสามารถช่วยเหลือบริวารให้รอดพ้นจากภัยแล้งได้สำเร็จ
3) บทบาท คุณค่า ศักยภาพ และความหมายเชิงสัญลักษณ์ของประเพณีฟังธรรมขอฝนในฐานะที่เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประเพณีขอฝนเป็นพิธีกรรมการสร้างขวัญกำลังใจให้ชุมชนก่อนฤดูเพาะปลูก ให้กำลังใจให้คนในชุมชน แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และสิ่งเหนือธรรมชาติที่ แสดงออกมาในรูปแบบของพิธีกรรมในประเพณี เช่น การฟังธรรมปลาช่อน การแห่บันไดแม่หม้าย ตีกลองดิน การจุดบั้งไฟ การเซ่นไหว้ผีบ้าน ผีขุนน้ำ ประเพณีฟังธรรมขอฝนได้ทำให้คนในชุมชนเกิดความตระหนัก และเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ป่า ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำ แหล่งอาหาร ไม้ใช้สอย สมุนไพรจากป่า ที่คนในชุมชนได้ใช้ประโยชน์จากป่ามาตั้งแต่บรรพบุรุษ สืบมาจนถึงปัจจุบัน ประเพณีขอฝนจึงเป็นพิธีกรรมท้องถิ่นที่สร้างขวัญกำลังใจให้คนในชุมชน แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และสิ่งเหนือธรรมชาติที่แสดงออกมาในรูปแบบของพิธีกรรม เพื่อแสดงความเคารพและกตัญญูต่อสิ่งเหนือธรรมชาติที่บันดาลให้ฝนตกลงมา ส่วนความหมายเชิงสัญลักษณ์ของเนื้อหา คือ ธรรมเทศนาพญาปลาช่อน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนา และการเลี้ยงผีขุนห้วย ซึ่งเป็นความเชื่อเรื่องสิ่งเหนือธรรมชาติในพิธีกรรมเลี้ยงผีขุนห้วยไคร้ และความหมายเชิงสัญลักษณ์ของเครื่องประกอบพิธีกรรม ได้แก่ ปลาช่อนไม้ โดยการนำไม้เนื้ออ่อนหรือเปลือกไม้ที่อยู่ในบริเวณพิธีกรรมนำมาถากเหลาเป็นรูปปลาช่อน การนำเนื้อสัตว์ดิบๆ มาเลี้ยงผีเจ้าป่าเจ้าเขาในพิธีกรรมเลี้ยงผีขุนห้วยไคร้
2. กระบวนการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝนในฐานะที่เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม มีการดำเนินงาน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ประชุมชี้แจงแกนนำชุมชน และสำรวจบริบทชุมชนห้วยไคร้ โดยประชุมชี้แจงการดำเนินงานโครงการแก่แกนนำชุมชน พระสงฆ์ และผู้อาวุโสในชุมชน ได้ลงพื้นที่สำรวจชุมชน เพื่อให้เห็นสภาพพื้นที่โดยรวม วิถีชีวิต การประกอบอาชีพ สถานที่สำคัญ และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น รวมทั้งสำรวจสภาพพื้นที่รอบนอก ลักษณะทางกายภาพของชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของชุมชนห้วยไคร้
ขั้นตอนที่ 2 เข้าร่วมในประเพณีฟังธรรมขอฝน และเลี้ยงผีขุนน้ำห้วยไคร้ โดยเข้าร่วมและสังเกตการณ์ประเพณีฟังธรรมขอฝนและการเลี้ยงผีขุนห้วยไคร้ ของชุมชนห้วยไคร้ในปี 2566 ในวันที่ 10 มิถุนายน โดยประเพณีฟังธรรมขอฝนจัดขึ้นบริเวณริมอ่างเก็บน้ำห้วยไคร้ ส่วนการเลี้ยงผีขุนห้วยไคร้ จัดบริเวณป่าต้นน้ำขุนห้วยไคร้ ในการดำเนินกิจกรรมทั้งสองประเพณีจะมีความแตกต่างกัน โดยการเลี้ยงผีขุนห้วยไคร้เป็นพิธีกรรมที่แสดงความเคารพนับถือต่อสิ่งเหนือธรรมชาติคือ ผีที่ดูแลรักษาป่าต้นน้ำให้ฝนตกตามฤดูกาล ส่วนประเพณีฟังธรรมขอฝนเป็นประเพณีทางพุทธศาสนาโดยพระสงฆ์จะสวดมนต์เพื่อขอฝนให้ตกลงมาก่อนถึงฤดูกาลทำนา มีการแสดงพระธรรมเทศนาเรื่อง “พญาปลาช่อน” หรือ “มัจฉาพญาปลาช่อน”
ขั้นตอนที่ 3 เวทีชุมชนเพื่อกำหนดแผนงานกิจกรรมการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝน เพื่อระดมแนวทางการทำกิจกรรมการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝนในฐานะที่เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยนำเสนอตัวอย่างของรูปแบบของการทำกิจกรรมการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีทางพระพุทธศาสนา รวมทั้งนำเสนอแนวทางการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝนใน 3 รูปแบบ คือ การพัฒนาศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝน การพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นในการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝน และการพัฒนาธรรมนูญชุมชนในการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝนในฐานะที่เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
ขั้นตอนที่ 4 ปฏิบัติการจัดทำกิจกรรมอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝนในฐานะที่เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน วัด โรงเรียน สภาวัฒนธรรม ท้องที่และท้องถิ่น ประกอบด้วย 1) พัฒนาศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝน ในวัดห้วยไคร้ และพื้นที่การเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ในโรงเรียนบ้านห้วยไคร้ 2) พัฒนาแผนการจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ในการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝน ๓ รายวิชาเพื่อใช้จัดการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนบ้านห้วยไคร้ และ3) พัฒนาธรรมนูญชุมชนในการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝน โดยการลงนามจากผู้นำชุมชน และประกาศใช้ในชุมชนห้วยไคร้ ทั้ง 7 หมู่บ้าน
ขั้นตอนที่ 5 การสื่อสารสาธารณะ โดยพัฒนาสื่อและช่องทางการเผยแพร่องค์ความรู้และแหล่งเรียนรู้ในการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝนผ่านศูนย์เรียนรู้ที่วัดห้วยไคร้ โรงเรียนบ้านห้วยไคร้ และชุดนิทรรศการ สื่อสารสาธารณะผ่านสื่อมวลชน และสื่อสังคมออนไลน์โดยจัดทำวิดีทัศน์ และนำเสนอข่าวผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ สื่อสังคมออนไลน์ และจัดพิมพ์หนังสือ
ขั้นตอนที่ 6 ถอดบทเรียนการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝนในฐานะที่เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยประชุมแกนนำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อถอดบทเรียนการดำเนินงาน และนำเสนอแนวทางการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝนในฐานะที่เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน
3. แนวทางการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝนในฐานะที่เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน
1) การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคีที่เกี่ยวข้อง เป็นรูปแบบของการดำเนินงานการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝนโดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนเป็นหลักที่มีส่วนร่วมในทุกระดับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านการประชุมพูดคุย และทำกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง 2 ลักษณะคือ การมีส่วนร่วมในกระบวนการอนุรักษ์และสืบสานโดยการประชุมวางแผน การคิดรูปแบบกิจกรรม การตัดสินใจ การลงมือปฏิบัติ การติดตามและประเมินผล รวมทั้งการร่วมรับผลประโยชน์จากกิจกรรมที่ดำเนินงานอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม และการมีส่วนร่วมในรูปแบบของการเข้ามาเป็นคณะกรรมการ การเป็นสมาชิก การมีส่วนร่วมในการระดมความคิด งบประมาณ แรงงาน และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินงานการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝน เป็นต้น
2) การจัดการกระบวนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ให้แก่คนในชุมชน เด็กเยาวชน รวมทั้งผู้ที่สนใจจากภายนอกชุมชนเข้ามาศึกษาเรียนรู้ ในรูปแบบกิจกรรมต่างๆ ที่มีความหลากหลายทั้งในชุมชน ในวัด ในโรงเรียน ด้วยวิธีการจัดการแบบบูรณาการร่วมกันระหว่างชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐและภาคประชาสังคม 3 ลักษณะ คือ (1) การจัดกระบวนการเรียนรู้ในบริเวณศูนย์เรียนรู้ประเพณีฟังธรรมขอฝน ภายในวัดห้วยไคร้ และโรงเรียนห้วยไคร้ซึ่งมีสื่อและพื้นที่เรียนรู้ประเพณีฟังธรรมขอฝน โดยมีปราชญ์ชาวบ้านมาเล่าเรื่อง (2) การฟื้นฟูหรือปรับประยุกต์รายละเอียดของกิจกรรมประเพณีฟังธรรมขอฝนที่เคยทำในอดีตให้กลับคืนมา รวมทั้งการฟื้นฟูการทำเครื่องประกอบพิธีกรรมแบบดั้งเดิม และ (3) การจัดกระบวนการเรียนรู้ในระหว่างหรือหลังการจัดประเพณีฟังธรรมขอฝนประจำปี หรือหลังจากเสร็จสิ้นการจัดประเพณีซึ่งเป็นการต่อยอด ขยายผลหรือยกระดับการจัดประเพณีฟังธรรมขอฝนที่เคยทำมา
3) การพัฒนากลไกและเครือข่ายด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น ถือเป็นการสร้างให้เกิดกลไกเชิงสถาบันและกลไกเชิงนโยบาย เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดแผนงานและกิจกรรมการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีฟังธรรมขอฝน และประเพณีวัฒนธรรมอื่นๆ ของท้องถิ่น การสร้างให้เกิดเครือข่ายด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล ระดับอำเภอ ระดับจังหวัดจนถึงระดับประเทศ โดยอาจเป็นเครือข่ายการเรียนรู้ และเครือข่ายกิจกรรม

 

Scroll to Top
ห้องวิจัยพุทธศาสตร์อัจฉริยะ BRL: Buddhist Research LAB
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.